Get 20% off instantly when you purchase 5,000 baht or more.
รู้สึกเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ เกิดจากอะไร - แก้ไขอย่างไร

รู้สึกเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ เกิดจากอะไร - แก้ไขอย่างไร

รู้สึกเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ เกิดจากอะไร - แก้ไขอย่างไร

          มนุษย์กับการเพศสัมพันธ์มีของคู่กันเราเมื่อถึงวัยแล้ว กลไกของร่างกายมนุษย์เราถูกสร้างให้มีความสุขเมื่อมีเซ็กส์ กระตุ้นการหลั่งฮอร์โมน ไม่ว่าจะโดปามีน (Dopamine) และออกซิโทซิน (Oxytocin) ซึ่งสร้างความรู้สึกพึงพอใจและเชื่อมโยงทางอารมณ์กับคู่รักของเรา เป็นความสุขที่เกิดขึ้นจากกลไกที่ธรรมชาติใช้เพื่อส่งเสริมการดำรงเผ่าพันธุ์ของมนุษย์เรา แต่ใช่ว่าทุกครั้งของการมีเพศสัมพันธ์จะสร้างความสุขสูงสุดได้เสมอไป และหนึ่งในเหตุผลนั้นคือการรู้สึกเจ็บระหว่างมีเซ็กส์ มีงานวิจัยบอกว่า 64.6% ของคู่รักจะรู้สึกเจ็บระหว่างมีเพศสัมพันธ์แต่ไม่กล้าบอกคู่รัก และเป็นสาเหตุที่ทำให้ 1 ใน 4 ของคู่รักไม่มีความสุขจากการมีเพศสัมพันธ์ ทำให้ไม่อยากมีเพศสัมพันธ์ในครั้งถัดไป เราจึงเขียนบทความวันนี้ว่ามันเกิดจากอะไร และเราจะแก้ไขได้อย่างไรไปดูกัน!

เลือกอ่าน

เนื้อหาในบทความนี้

  • การเจ็บปวดระหว่างมีเซ็กส์มีผลกระทบต่อความสัมพันธ์คู่รักอย่างไร

  • สาเหตุทางกายภาพของความเจ็บปวดขณะมีเพศสัมพันธ์

  • สาเหตุอาการเจ็บที่มาจากทางจิตใจและอารมณ์

  • การแก้ไขและบรรเทาอาการเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์

  • การปรับท่าทางการมีเพศสัมพันธ์เพื่อป้องกันอาการเจ็บทางกายภาพ

เราจะสื่อสารกับคู่รักอย่างไรไม่ทำให้เขารู้สึกแย่

การเจ็บปวดระหว่างมีเซ็กส์มีผลกระทบต่อความสัมพันธ์คู่รักอย่างไร

เจ็บปวดระหว่างมีเซ็กส์ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของคู่รัก

          อาการเจ็บปวดระหว่างมีเพศสัมพันธ์ไม่เพียงส่งผลต่อร่างกาย แต่ยังสร้าง “บาดแผลทางใจ” ที่ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ได้โดยไม่รู้ตัว หลายคู่เริ่มต้นจากความรู้สึกไม่สบายตัวเล็กๆ แต่เมื่อปล่อยไว้โดยไม่แก้ไข อาจขยายเป็นปัญหาซับซ้อนที่จัดการได้ยากขึ้น เมื่อประสบการณ์เจ็บปวดถูกจดจำในสมอง ร่างกายจะพัฒนาปฏิกิริยา “Anticipatory Pain” หรือการคาดการณ์ความเจ็บไว้ล่วงหน้า แม้ยังไม่เกิดเหตุการณ์จริง ส่งผลให้เกิดความเครียด เกร็งกล้ามเนื้อเชิงกราน และหลีกเลี่ยงการมีเซ็กส์โดยไม่รู้ตัว พฤติกรรมนี้ทำให้ทั้งคู่ตกอยู่ในวงจร “กลัวเจ็บ→หลีกเลี่ยง→ห่างเหิน” สายสัมพันธ์ค่อยๆ เย็นชาลงจากการขาดความใกล้ชิดทางกาย ทางออกสำคัญคือการสื่อสารเชิงบวกและหาสาเหตุร่วมกัน เพราะว่าหากทั้งคู่เปิดใจ พูดคุยกัน และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อแก้ไขปัญหา หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก็จะสามารถสร้างสุขภาพความสัมพันธ์ที่ดีกับคู่ของเราได้

สาเหตุทางกายภาพของความเจ็บปวดขณะมีเพศสัมพันธ์

ความเจ็บปวดทางกายภาพขณะมีเพศสัมพันธ์

          ความเจ็บปวดขณะมีเพศสัมพันธ์อาจเกิดจากหลายสาเหตุทางกายภาพ ซึ่งส่งผลกระทบต่อประสบการณ์ทางเพศและคุณภาพชีวิตของคู่รัก การทำความเข้าใจถึงสาเหตุเหล่านี้เป็นก้าวแรกที่สำคัญในการแก้ไขปัญหาและปรับปรุงความสัมพันธ์ทางเพศให้ดีขึ้น สาเหตุทางกายภาพมักแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก คือ อาการเจ็บตื้นและอาการเจ็บลึก ซึ่งแต่ละประเภทมีสาเหตุและวิธีการจัดการที่แตกต่างกัน

ช่องคลอดแห้ง

  • การขาดการกระตุ้นทางอารมณ์ก่อนมีเพศสัมพันธ์ก็อาจทำให้ช่องคลอดไม่ชุ่มชื้นเพียงพอ จนเกิดการเสียดสีและเจ็บปวดได้ และในหลาย ๆ กรณีเกิดจากการลดลงของฮอร์โมนเอสโตรเจน ส่งผลให้ผนังช่องคลอดบางลงและขาดสารหล่อลื่นตามธรรมชาติ มักพบในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน หลังคลอดบุตร หรือช่วงให้นมลูก 

การติดเชื้อหรือการอักเสบ

  • เชื้อราและแบคทีเรีย : ทำให้ช่องคลอดอักเสบ เกิดอาการแสบ คัน และมีตกขาวผิดปกติ

  • โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ : เช่น หนองใน เริม อวัยวะเพศอักเสบ หรือมีแผล

  • การระคายเคืองจากสารเคมี : สบู่ ครีมอาบน้ำ น้ำยาซักผ้า หรือถุงยางอนามัยที่มีส่วนผสมที่แพ้

โรคทางนรีเวช

  • เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis) : เยื่อบุที่ควรอยู่ภายในมดลูกไปเติบโตนอกมดลูก ก่อให้เกิดการอักเสบเรื้อรังและเจ็บลึกในอุ้งเชิงกราน

  • ช็อกโกแลตซีสต์ : ถุงน้ำที่เกิดจากเลือดประจำเดือนคั่งในรังไข่ กดทับอวัยวะข้างเคียง

  • ฝีในอุ้งเชิงกราน : การติดเชื้อรุนแรงจนเกิดเป็นหนอง

ภาวะกล้ามเนื้อช่องคลอดหดเกร็ง (Vaginismus)

  • กล้ามเนื้อบริเวณช่องคลอดหดตัวแบบไม่ตั้งใจ มักสัมพันธ์กับความเครียดหรือความกังวลทางจิตใจ ส่งผลให้ไม่สามารถสอดใส่ได้ หรือเจ็บเหมือนมีสิ่งกีดขวาง

การบาดเจ็บหรือแผลฉีกขาด

  • หลังผ่าตัดคลอดหรือฝีเย็บ

  • เพศสัมพันธ์รุนแรงเกินไป

  • แผลจากโรคผิวหนังหรือการติดเชื้อเริม

อาการเจ็บตื้นและเจ็บลึก

  • เจ็บตื้น : เกิดบริเวณปากช่องคลอดหรืออวัยวะเพศภายนอก มักแสบจากผิวบางส่วนอักเสบ มีแผลถลอก หรือการหล่อลื่นไม่เพียงพอ

  • เจ็บลึก : รู้สึกเจ็บลึกในท้องน้อยหรืออุ้งเชิงกราน มักสัมพันธ์กับโรคเช่น เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ ช็อกโกแลตซีสต์ หรือการอักเสบในมดลูก

สาเหตุอาการเจ็บที่มาจากทางจิตใจและอารมณ์สาเหตุอาการเจ็บที่มาจากทางจิตใจและอารมณ์

          เราไม่ควรมองข้ามผลกระทบจากสภาวะทางจิตใจและอารมณ์ มนุษย์เราเป็นสิ่งมีชีวิตที่ซับซ้อน การตอบสนองต่อเรื่องเพศไม่ได้เกิดจากกายภาพเพียงอย่างเดียว แต่เชื่อมโยงโดยตรงกับสภาพจิตใจและความรู้สึก จิตใจที่ไม่พร้อมส่งผลให้ร่างกายไม่พร้อมด้วยเช่นกัน สภาวะทางจิตใจที่ไม่พร้อมหรือมีความกังวลสามารถส่งผลโดยตรงต่อการตอบสนองทางร่างกาย ทำให้เกิดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อและลดการหลั่งสารหล่อลื่นตามธรรมชาติ ซึ่งนำไปสู่ความเจ็บปวดได้

ความเครียดและความกังวล

  • ความกดดันจากชีวิตประจำวัน การทำงาน หรือแม้แต่การคาดหวังให้ตัวเองซึ่งส่งผลให้ช่องคลอดแห้งและขาดความยืดหยุ่น และหากคู่รักกดดันให้มีเซ็กส์โดยไม่คำนึงถึงความรู้สึกอีกฝ่าย ความเครียดนี้จะยิ่งกระตุ้นให้กล้ามเนื้อช่องคลอดหดเกร็ง จนเกิดอาการเจ็บคล้ายมีสิ่งกีดขวาง

ประสบการณ์ทางเพศเชิงลบในอดีต

  • ผู้ที่มีประวัติถูกทำร้ายร่างกายหรือจิตใจจากการมีเซ็กส์มาก่อน มักเก็บความทรงจำเหล่านั้นเป็น “แผลใจที่ยังไม่หาย” สมองจะจดจำความเจ็บปวดและกระตุ้นให้ร่างกายเกิดปฏิกิริยาต่อต้าน โดยอัตโนมัติทุกครั้งที่คิดจะใกล้ชิดกับคู่รัก แม้เหตุการณ์นั้นจะผ่านมานานแล้วก็ตาม บางรายอาจมีอาการทางกายชัดเจน เช่น กล้ามเนื้อช่องคลอดหดเกร็งรุนแรง หรือรู้สึกเจ็บทุกครั้งที่ถูกสัมผัส

ปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างคู่

  • ความไม่ไว้วางใจ ความขัดแย้งที่ยังไม่คลี่คลาย หรือการขาดการสื่อสารเชิงลึก ทำให้ความรู้สึกใกล้ชิดลดลง เมื่ออารมณ์เชิงลบเหล่านี้ถูกสะสมไว้มากๆ ร่างกายจะแสดงปฏิกิริยาโดยไม่รู้ตัว ตัวอย่างเช่น คู่รักที่เพิ่งทะเลาะกันอาจรู้สึกว่าเซ็กส์เป็นเพียง “หน้าที่” แทนที่จะเป็นกิจกรรมสร้างความผูกพัน ส่งผลให้ขาดความพร้อมทางอารมณ์จนนำไปสู่ความเจ็บปวด

ความกลัวการมีเพศสัมพันธ์

  • บางคนอาจพัฒนาความกลัวจากการถูกตำหนิเรื่องสมรรถภาพทางเพศ หรือเคยได้รับความเจ็บปวดจนฝังใจ สมองจึงสร้าง “วงจรความหวาดระแวง” โดยอัตโนมัติ เช่น กลัวว่าจะเจ็บอีก กลัวตั้งครรภ์ หรือกลัวโรคติดต่อ แม้จะไม่มีปัจจัยเสี่ยงจริงก็ตาม ความกลัวเหล่านี้กระตุ้นให้ร่างกายตึงตัว สารหล่อลื่นลดลง และรู้สึกเจ็บแม้ในท่าทางที่ควรผ่อนคลาย

การแก้ไขและบรรเทาอาการเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์

การแก้ไขและบรรเทาอาการเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์

          อาการเจ็บปวดระหว่างมีเพศสัมพันธ์สามารถแก้ไขและบรรเทาได้ด้วยวิธีการที่เหมาะสม ทั้งการปรับพฤติกรรม การดูแลสภาพร่างกายและจิตใจ รวมถึงการสื่อสารกับคู่รักอย่างเข้าใจ เริ่มต้นให้เราเปิดอกพูดคุยกัน ควรเลือกเวลาที่ทั้งสองฝ่ายพร้อม และใช้คำพูดเชิงบวก เช่น “เราอยากให้เวลานี้สนุกทั้งคู่ ลองปรับท่าหรือจังหวะกันดีไหม” หลีกเลี่ยงการตำหนิหรือเปรียบเทียบ เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายรู้สึกถูกโจมตี การสื่อสารช่วยให้เข้าใจกันมากขึ้นและหาทางออกร่วมกัน 

          การฝืนมีเพศสัมพันธ์ขณะร่างกายหรือจิตใจไม่พร้อมจะเพิ่มความเจ็บปวดและสร้างความเครียดสะสม ควรบอกคู่รักอย่างตรงไปตรงมา เช่น “วันนี้ร่างกายเราไม่ไหว ไว้คราวหน้าดีกว่า” หรือหากแม้เราพร้อม แต่มีปัญหาช่องคลอดแห้ง ก็ให้เราใช้สารหล่อลื่นชนิด Water-based เพราะไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง และปลอดภัยเมื่อใช้ร่วมกับถุงยางอนามัย หากอาการไม่ดีขึ้นหลังลองแก้ไขด้วยตัวเอง ควรปรึกษา แพทย์ นักบำบัด หรือผู้เชี่ยวชาญด้านเพศสัมพันธ์ เพื่อตรวจหาสาเหตุทางกายภาพ เช่น การติดเชื้อหรือความผิดปกติของมดลูก รวมถึงรับคำแนะนำในการฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางอารมณ์กับคู่รัก

หมอนเสยตัวช่วยเพื่อป้องกันอาการเจ็บทางกายภาพ

หมอนเสยช่วยป้องกันอาการเจ็บทางกายภาพ

          หนึ่งในสินค้าที่เราออกแบบมาเพื่อป้องกันอาการเจ็บทางกายภาพ คือหมอนเสย mr.big x NANAKE555 ที่ถูกออกแบบโดยยึดหลักด้านสรีรศาสตร์ เพื่อแก้ปัญหาอาการเจ็บปวดระหว่างมีเพศสัมพันธ์จากท่าทางที่ไม่เหมาะสม โดยออกแบบจากข้อมูลพฤติกรรมและกลไกการทำงานของร่างกายมนุษย์ ผ่านการปรับองศารองรับอุ้งเชิงกรานให้อยู่ในตำแหน่งธรรมชาติ ส่งผลให้เกิดการสัมผัสจุดไวต่อความรู้สึก A-spot และ G-spot ลดแรงกดทับกล้ามเนื้อ-ข้อต่อ ขนาดที่พอดีสำหรับการเคลื่อนไหวระหว่างกิจกรรมใกล้ชิด กระจายน้ำหนักตัวอย่างสมดุล ช่วยลดอาการเกร็งหรือเมื่อยล้าบริเวณหลังและสะโพก รวมถึงวัสดุที่ลดแรงกระแทกเพื่อป้องกันการบาดเจ็บกะทันหัน ทุกดีเทลถูกคิดมาเพื่อให้ทั้งคู่รู้สึกผ่อนคลาย ปลอดภัย และเพลิดเพลินกับกิจกรรมเพศสัมพันธ์

ช่องทางสั่งซื้อหมอนเสย

Website : หมอนเสย Soey Pillow mr.big x NANAKE555

Shopee : หมอนเสย™ จาก mr.big x NANAKE555 หมอนสำหรับคู่รัก ออกแบบโดยนักกายภาพบำบัด

เราจะสื่อสารกับคู่รักอย่างไรไม่ทำให้เขารู้สึกแย่

          การสื่อสารเรื่องความเจ็บปวดระหว่างมีเพศสัมพันธ์ต้องอาศัย “ความอ่อนโยนที่ตรงไปตรงมา” โดยเริ่มจากเลือกเวลาสนิทที่ทั้งคู่ผ่อนคลาย และใช้ภาษากายที่เปิดกว้าง เช่น สบตา จับมือ เพื่อแสดงว่าคุณมองเรื่องนี้เป็นทีม ไม่ใช่ปัญหาของใครคนเดียว ใช้ประโยคเชิงบวกที่เน้นการร่วมมือ เช่น “เราลองหาวิธีปรับด้วยกันไหม” แทนการชี้นิ้วว่า “คุณทำให้ฉันเจ็บ” ควรเลี่ยงการพูดกลางวงจรความขัดแย้ง และใช้คำว่า “เรา” แทน “คุณ” เพื่อลดความรู้สึกถูกโจมตี พร้อมรับฟังมุมมองของคู่รักโดยไม่ตัดสิน หากอีกฝ่ายรู้สึกผิดหรือเสียหน้า ให้ย้ำว่าเป้าหมายคือการเข้าใจร่างกายกันมากขึ้น การเริ่มบทสนทนาด้วยประโยคชื่นชม เช่น “เราชอบเวลาที่เราใกล้ชิดกัน แต่อยากให้มันดีขึ้นอีก” จะช่วยสร้างบรรยากาศปลอดภัยให้ทั้งสองฝ่ายกล้าแสดงความต้องการอย่างแท้จริง การทำความเข้าใจสาเหตุทางจิตใจเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ต้องอาศัย “การฟังโดยไม่ตัดสิน” จากคู่รัก เพื่อคลี่คลายปัญหาที่ซ่อนอยู่ เพราะเมื่อจิตใจพร้อม ร่างกายก็จะตอบสนองตามธรรมชาติโดยไม่เกิดอาการเจ็บปวดขัดขวางความสัมพันธ์อีกต่อไป

Shop the story