ปวดต้นคอ

ปวดต้นคอมากๆ! มาดูสาเหตุและวิธีแก้ปัญหาปวดต้นคอท้ายทอย

ปวดต้นคอมากๆ! มาดูสาเหตุและวิธีแก้ปัญหาปวดต้นคอท้ายทอย

ปวดต้นคอ

บทนำ


ปวดต้นคอมากๆ! ตื่นมาพร้อมกับความปวด อาการแบบนี้เป็นอาการที่หลายๆต้องเจอ อยู่ๆตื่นมาก็ปวดโดยที่ยังไม่รู้สาเหตุที่ชัดเจน แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าอาการปวดต้นคอของเราเกิดจากสาเหตุใด? พอจะมีวิธีสังเกตอาการไหม? บทความนี้ เรามาทำความรู้จักกับสาเหตุของอาการปวดต้นคอท้ายทอยกัน เพื่อจะได้หาวิธีแก้ไข และป้องกันได้อย่างตรงจุด


สารบัญ

บทนำ

  • อาการปวดต้นคอเป็นอย่างไร
  • สาเหตุของอาการปวดต้นคอและท้ายทอย
  • วิธีแก้ปัญหาปวดต้นคอและท้ายทอย
  • การเลือกหมอนเพื่อป้องกันอาการปวดต้นคอ
  • การเลือกเตียงที่เหมาะสมป้องกันอาการปวดต้นคอ
  • ท่านอนที่ถูกต้องต้องนอนอย่างไร
  • ท้ายบทความ



    อาการปวดต้นคอเป็นอย่างไร 

    อาการปวดต้นคอเป็นอย่างไร

    อาการปวดต้นคอบางคนจะเรียกว่าอาการปวดท้ายทอย โดยอาการมักเริ่มจากความรู้สึกตึงหรือเกร็งบริเวณกล้ามเนื้อคอด้านหลัง ซึ่งอาจลามไปถึงบ่า ไหล่ และสะบัก ผู้ที่มีอาการจะรู้สึกปวดตื้อๆ หรือปวดแปลบเป็นจังหวะ โดยเฉพาะเมื่อขยับศีรษะหรือเอียงคอ ในบางครั้งอาจมีอาการปวดศีรษะร่วมด้วย (หากเป็นหนักๆ) โดยเฉพาะบริเวณท้ายทอย หากอาการรุนแรงขึ้น อาการปวดต้นคอสามารถเกิดขึ้นแบบเฉียบพลันหรือเรื้อรัง โดยมักแย่ลงเมื่ออยู่ในท่าเดิมนานๆ ในบางครั้งอาจพบภาวะแทรกซ้อนเกี่ยวกับการทรงตัวหรือการเดินด้วย


    สาเหตุของอาการปวดต้นคอและท้ายทอย 


    สาเหตุของอาการปวดต้นคอและท้ายทอย

    สาเหตุของอาการนี้มีหลากหลาย ตั้งแต่พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน ไปจนถึงปัญหาทางกายภาพของร่างกาย การทำความเข้าใจถึงสาเหตุต่างๆ จะช่วยให้เราสามารถป้องกันและบรรเทาอาการปวดได้ ซึ่งเราจะมาเจาะลึกกันว่าสาเหตุแต่ละอย่างมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง


    1. อิริยาบถที่ไม่เหมาะสม
    • การใช้ชีวิตในยุคนี้ทำให้เราต้องอยู่ในท่าทางที่ต้องฝืนธรรมชาติ ไม่ปรับเปลี่ยนท่าทางเป็นเวลานาน เช่น การนั่งทำงานหน้าคอมฯนานๆ นั่งขับรถหลายชั่วโมง ทำให้กล้ามเนื้อคอและไหล่ต้องทำงานหนักเพื่อรักษาตำแหน่งของศีรษะ หรือการก้มหน้าดูโทรศัพท์มือถือบ่อยๆ ก็เพิ่มแรงกดทับบนกระดูกสันหลังส่วนคอ ส่งผลให้เกิดอาการปวดเมื่อยได้

     

    1. ความเครียดสะสม
    • เมื่อเราเผชิญกับความเครียด ร่างกายจะตอบสนองโดยการเกร็งกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะบริเวณคอและไหล่ หากความเครียดนี้เกิดขึ้นเป็นประจำและต่อเนื่อง กล้ามเนื้อจะอยู่ในสภาวะหดเกร็งเป็นเวลานาน ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก เกิดการคั่งของของเสียในกล้ามเนื้อ และนำไปสู่อาการปวดเมื่อยในที่สุด การจัดการความเครียดจึงเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยลดอาการปวดคอได้

    1. การพักผ่อนไม่เพียงพอ
    • การนอนหลับเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายได้ซ่อมแซมและฟื้นฟูตัวเอง รวมถึงกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อต่างๆ หากเราพักผ่อนไม่เพียงพอ ร่างกายจะไม่มีโอกาสฟื้นตัวจากความเหนื่อยล้าของวัน ทำให้กล้ามเนื้อยังคงตึงและเกร็ง นอกจากนี้ การอดนอนยังอาจส่งผลให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนความเครียดมากขึ้น ซึ่งยิ่งทำให้อาการปวดคอรุนแรงขึ้นได้

    1. กล้ามเนื้ออักเสบ
    • การอักเสบของกล้ามเนื้อบริเวณคอและต้นคอเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยของอาการปวด โดยอาจเกิดจากการใช้งานมากเกินไป การบาดเจ็บเล็กน้อย กล้ามเนื้อที่อักเสบจะมีอาการบวม ตึง และปวด ทำให้การเคลื่อนไหวของคอลำบากขึ้น

    1. กระดูกต้นคอเสื่อม
    • ปัญหานี้มักพบในผู้สูงอายุ แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้ในคนวัยอื่นๆ เช่นกัน เมื่อกระดูกสันหลังส่วนคอเสื่อมลง จะทำให้เกิดการกดทับเส้นประสาท ส่งผลให้เกิดอาการปวดร้าวไปยังบริเวณต้นคอและท้ายทอย บางครั้งอาจมีอาการชาร่วมด้วย 

    วิธีแก้ปัญหาปวดต้นคอและท้ายทอย 


    แก้ปัญหาเชิงป้องกันการปวดต้นคอ 

    1. การปรับท่านั่งและท่านอนให้เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องทำงานหน้าคอมพิวเตอร์หรือใช้โทรศัพท์มือถือเป็นเวลานาน ควรจัดให้หน้าจออยู่ในระดับสายตา และควรพักสายตาทุก 20 นาที นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการก้มคอมากเกินไปขณะใช้โทรศัพท์มือถือ

    2. หมอนที่ดีควรรองรับส่วนโค้งของคอได้พอดี ไม่สูงหรือต่ำจนเกินไป เพื่อให้กระดูกสันหลังส่วนคออยู่ในแนวตรง ช่วยลดแรงกดทับบนกล้ามเนื้อและเส้นประสาท ทำให้นอนหลับสบายและตื่นขึ้นมาโดยไม่รู้สึกปวดคอ

    3. การนวดหรือยืดกล้ามเนื้อบริเวณต้นคอเบาๆ เป็นวิธีที่ช่วยบรรเทาอาการปวดคอได้ดี การหมุนหัวไหล่ช้าๆ ช่วยคลายความตึงของกล้ามเนื้อบริเวณบ่าและต้นคอ ส่วนการขยับศีรษะขึ้นลงช้าๆ ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับกล้ามเนื้อคอ ควรทำอย่างนุ่มนวลและไม่ฝืนจนเกินไป หากรู้สึกเจ็บให้หยุดทันที

    แก้อาการหลังเกิดการปวดต้นคอ  


    1. การประคบร้อนหรือเย็นเป็นวิธีบรรเทาอาการปวดคอที่ได้ผลดี โดยในช่วง 48-72 ชั่วโมงแรกหลังเกิดอาการ ควรประคบเย็นเพื่อลดการอักเสบ หลังจากนั้นจึงเปลี่ยนเป็นประคบร้อนเพื่อช่วยคลายกล้ามเนื้อและเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย

    2. ในกรณีที่มีอาการปวดคอรุนแรงเราแนะนำให้ไปพบแพทย์ แต่หากต้องการรับประทานยาแก้ปวด แนะนำทานให้ตามคำแนะนำเภสัชกร ยาที่มักใช้ได้แก่ ยาแก้ปวดทั่วไปเช่น พาราเซตามอล ทั้งนี้ควรปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดและไม่ใช้ยาติดต่อกันเป็นเวลานานโดยไม่ปรึกษาแพทย์

    3. การทำกายภาพบำบัดเป็นวิธีในการรักษาอาการปวดคอ หากเรามีอาการเรื้อรัง นักกายภาพบำบัดจะประเมินอาการและออกแบบโปรแกรมการรักษาเฉพาะบุคคล ซึ่งอาจรวมถึงการนวด การยืดกล้ามเนื้อ การฝึกความแข็งแรง และการใช้เครื่องมือทางกายภาพบำบัดต่างๆ เพื่อเสริมสร้างความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ ซึ่งช่วยลดอาการปวดได้

    การเลือกหมอนเพื่อป้องกันอาการปวดต้นคอ 


    การเลือกหมอนเพื่อป้องกันอาการปวดต้นคอ

    การเลือกหมอนที่เหมาะสมเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยป้องกันอาการปวดต้นคอได้ดี หมอนที่ดีไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณนอนหลับสบาย แต่ยังช่วยรักษาท่าทางการนอนที่ถูกต้อง ลดความเครียดที่เกิดขึ้นกับกล้ามเนื้อและกระดูกสันหลังส่วนคอ การเลือกหมอนให้เหมาะกับสรีระของคุณจึงเป็นเรื่องที่ควรให้ความใส่ใจ 


    ปัจจัยหลักในการเลือกหมอนเพื่อป้องกันอาการปวดต้นคอ 


    ความสูงของหมอน


    • หมอนที่มีความสูงพอดีจะช่วยรองรับช่องว่างระหว่างศีรษะ คอ และไหล่ได้อย่างเหมาะสม ทำให้กระดูกสันหลังอยู่ในแนวตรง ลดความเสี่ยงของอาการปวดคอ หากหมอนสูงเกินไป คอของคุณจะถูกดันขึ้น ทำให้กล้ามเนื้อต้องทำงานหนักเพื่อรักษาสมดุล ในทางกลับกัน หมอนที่ต่ำเกินไปจะทำให้คอของคุณตกลงมา ส่งผลให้เกิดความเครียดที่กล้ามเนื้อคอและไหล่ 

    วัสดุของหมอน


    • วัสดุที่ใช้ทำหมอนมีผลโดยตรงต่อการรองรับและการปรับรูปทรงตามสรีระของผู้ใช้ หมอนที่ทำจากเมมโมรี่โฟมหรือยางพาราเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะสามารถกระจายแรงกดทับได้อย่างสม่ำเสมอ ช่วยลดจุดกดทับและความตึงของกล้ามเนื้อคอ เมมโมรี่โฟมคุณภาพสูงจะปรับรูปทรงตามแรงกดของศีรษะและคอ ส่วนยางพาราก็มีคุณสมบัติยืดหยุ่นดี ให้การรองรับที่นุ่มนวลแต่มั่นคง ช่วยให้คอและศีรษะอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมตลอดคืน

    รูปทรงของหมอน


    • รูปทรงของหมอนมีส่วนช่วยในการประคองศีรษะและคอให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง หมอนทรง มีโค้ง Shoulder Curve และ Cervical Curve รองรับต้นคอจะช่วยประคองศีรษะและคอได้ดีกว่าหมอนทั่วไป เป็นตัวอย่างที่ดี เพราะออกแบบมาเพื่อรองรับส่วนโค้งของคอโดยเฉพาะ ช่วยให้กล้ามเนื้อคอได้พักและผ่อนคลายอย่างเต็มที่ขณะนอน ช่วยกระจายน้ำหนักของศีรษะอย่างสม่ำเสมอ ลดความเสี่ยงของอาการปวดคอที่อาจเกิดขึ้นจากการนอนในท่าที่ไม่ถูกต้อง

    การเลือกเตียงที่เหมาะสมป้องกันอาการปวดต้นคอ  


    การเลือกเตียงที่เหมาะสมป้องกันอาการปวดต้นคอ

    ควรเลือกที่นอนที่มีความแน่นพอดี ไม่นุ่มหรือแข็งจนเกินไป ที่นอนที่ดีควรรองรับสรีระร่างกายได้อย่างเหมาะสม ช่วยให้กระดูกสันหลังอยู่ในแนวตรง ลดแรงกดทับบริเวณไหล่และสะโพก วัสดุที่แนะนำ ได้แก่ โพลียูรีเทน ยางพารา หรือสปริง เนื่องจากมีความยืดหยุ่นสูงและให้ความสมดุล ทำให้สามารถรักษาท่าทางการนอนได้ดีแม้ขณะพลิกตัว สำหรับผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยติดเตียง ที่นอนยางพาราเป็นตัวเลือกที่ดี เนื่องจากช่วยกระจายแรงกดทับ ระบายความร้อน และมีความยืดหยุ่นสูง

    ท่านอนที่ถูกต้องต้องนอนอย่างไร 

    ท่านอนที่ถูกต้องต้องนอนอย่างไร

    ท่านอนที่เหมาะสมช่วยลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อและรักษาแนวกระดูกสันหลังให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง สำหรับผู้ที่ชอบนอนหงาย แนะนำให้ใช้หมอนที่มีความสูงที่เหมาะสมเพื่อให้คออยู่ในแนวตรงส่วนคนที่ถนัดนอนตะแคง ควรเลือกหมอนที่มีความสูงพอดีกับความกว้างของไหล่ เพื่อให้คอและกระดูกสันหลังอยู่ในแนวเดียวกัน และอาจใช้หมอนข้างกอดเพื่อช่วยรักษาสรีระที่ถูกต้อง ควรหลีกเลี่ยงการนอนคว่ำ เนื่องจากท่านี้ทำให้คอต้องบิดเพื่อหายใจ ซึ่งอาจก่อให้เกิดอาการปวดเมื่อยได้ 


    ท้ายบทความ


    สำหรับคนที่เจอปัญหาปวดต้นคอบ่อยๆ จนรบกวนการใช้ชีวิต เราอยากจะบอกทุกว่าทุกปัญหามีทางออก เพียงแค่เราต้องใส่ใจและหาวิธีแก้ไขอย่างถูกต้อง การที่คุณเริ่มหาข้อมูลก็ถือว่าเป็นก้าวแรกในการแก้ไขอาการปวดต้นคอแล้ว ซึ่งทุกการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ มันจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีได้แน่นอน แน่นอนว่าอาการเจ็บปวดที่เกิดมันเป็นสัญญาณเตือนให้เราหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ก็ขอให้ทุกคนดูแลสสุขภาพ และมีสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น!!